อาหารและโภชนาการสำหรับสุนัข (Food & Recipes)

ดัชชุนด์เป็นสุนัขที่ชอบกิน และดูจะมีความสามารถพิเศษที่จะขออาหารหรือขนมจากเจ้าของอยู่เรื่อยๆ เจ้าของจึงต้องดูแลให้แต่อาหารที่มีคุณประโยชน์ เพราะดัชชุนด์จะอ้วนง่าย และเมื่อคุณให้อาหารถูกหลักโภชนาการ สุนัขของคุณก็จะแก่ช้า และไม่มีปํญหาเรื่องขน หรือโรคถัยไข้เจ็บต่างๆ

วิธีที่ง่ายที่สุดคือ ให้อาหารสุนัขสำเร็จรูป เพียงแค่ตักใส่ชามข้าวให้เขาก็เรียบร้อยแล้ว

อาหารสุนัขที่ดีต้องมี โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมันดี และยังต้องมีวิตามินและเกลือแร่ที่เพียงพอต่อความต้องการและในปริมาณที่พอดี หากมีปริมาณเกลือแร่ชนิดใดชนิดหนึ่งมากเกินไป จะทำให้เกิดปัญหาในการดูดซึมเกลือแร่ชนิดอื่น และเช่นเดียวกัน หากได้รับเกลือแร่น้อยเกินไป ก็จะทำให้การดูดซึมวิตะมินและเกลืแแร่ได้ไม่ดีเท่าที่ควร บริษัทใหญ่ๆที่ผลิตอาหารสุนัขที่ได้มาตราฐานต้องมีสัดส่วนของวิตะมินและเกลือแร่เพื่อให่ร่างกายสุนัขนำไปใช้ประโยชน์ได้สูงสุด

นักโภชนาการและสัตวแพทย์มีความเห็นตรงกันว่า ถ้าหากสุนัขได้รับสารอาหารต่างๆโดยสมดุลเพียงพอกับที่ร่างกายต้องการแล้ว พวกวิตะมินหรือเกลือแร่เสริมนั้นไม่จำเป็นเลย ถ้าการให้อาหารเสริมนั้นไม่มีความสมดุลก็จะทำให้เกิดปัญหาด้านโภชนาการกับสุนัขได้

 

อาหารและโภชนาการสำหรับดัชชุนด์

 

 

อาหารสำหรับลูกสุนัขบางอย่างทำให้ลูกสุนัขโตเร็วเกินไป และการที่โตเร็วเกินไปนี้ทำให้เกิดปัญหาต่อความผิดปกติของกล้ามเนื้อ เนื้อเยื่อต่างๆ ต้นขาและสะโพก และกระดูก ที่อาจจะเจริญเติบโตเร็วเกินไป

อาหารสุนัขแบ่งได้เป็น 3 ประเภทหลักๆ ได้แก่ ชนิดแห้ง ชนิดกึ่งเปียก และ อาหารกระป๋อง

อาหารชนิดแห้ง หรืออาหารเม็ด จะราคาถูกกว่า ชนิดกึ่งเปียก และ อาหารกระป๋อง อาหารเม็ดมีข้อดีคือ ช่วยให้ฟันของสุนัขสะอาด เพราะในขณะที่สุนัขเคี้ยวอาหาร กากของอาหารจะทำความสะอาดฟันไปด้วย
อาหารชนิดกึ่งเปียก จะค่อนข้างนิ่ม ซึ่งอาจจะติดฟันของสุนัข และเป็นสาเหตุให้เกิดโรคเหงือกและฟันได้ ส่วนใหญ่อาหารกึ่งเปียกนี้มักจะมีสารถนอมอาหารผสมอยู่ซึ่งอาจเป้นอันตรายกับสุนัขได้
อาหารกระป๋อง เหมาะสำหรับใหแก่สุนัขที่มีปัญหาสุขภาพฟัน เจ็บป่วย เบื่ออาหาร หรือสุนัขที่อายุมาก อาหารกระป๋องมักจะมีราคาแพงกว่า อาหารเม็ด และต้องเก็บในตู้เย็นหลังจากเปิดฝาแล้ว
 

อาหารสุนัขในปัจจุบัยมีให้เลือกมากมายในท้องตลาด เมื่อคุณต้องการเลือกอาหารให้สุนัขแสนรักของคุณ คุณควรอ่านฉลาก ดูวัตถูดิบที่ใช้ และพิจารณาเลือกให้ดี โดยมีหลักสำคัญดังนี้

- ผลิตจากเนื้อ หรือผลิตภัณฑ์จากเนื้อ (By products) ควรเลือกเฉพาะที่ทำจากเนื้อจริงๆ เช่น เนื้อแกะ เนื้อวัว หรือ เนื้อไก่ ส่วนอาหารสุนัขที่ทำจาก By products นั้นเป็นเศษเหลือต่างๆ ซึ่งไม่มีคุณค่าอาหารต่อสุนัข
- สูตรของอาหาร ซึ่งจะแบ่งตาม อายุ ขนาด หรือ กิกรรมของสุนัขที่ต่างกัน เช่น อาหารสำหรับลูกสุนัข หรือ สุนัขที่มีกิจกรรมมาก หรือน้อย หรือ อาหารสำหรับสุนัขวัยชรา เป็นต้น
- เกรดของอาหาร แบบชั้นดี หรือ ทั่วไป อาหารสุนัขแบบชั้นดี หรือ พรีเมี่ยม เกรด นั้น ถึงแม้จะแพงกว่าอาหารทั่วไป แต่มีคุณภาพสูง และสารอาหารต่างๆครบถ้วนกว่า และย่อยง่าย ทำให้สุนัขได้รับสารอาหารที่ดีกว่า
- สารถนอมอาหาร ควรหลีกเลี่ยงอาหารสุนัขที่ผสม สารปรุงแต่ง หรือ สารถนอมอาหาร ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพของสุนัข สารถนอมอาหารเหล่านั้น ได้แก่ ethoxyquin, butylated hydroxytoluene(BHT) และ butylated hydroxyanisole (BHA) วัตถุปรุงแต่งอาหารตามธรรมชาติจะปลอดภัยกว่า อันได้แก่ tocopherols (วิตะมินอี) และ ascorbic acid (วิตะมินซี)

 เจ้าของสุนัขบางคนที่มีสุนัขผิวแห้ง อาจจะเติมน้ำมันข้าวโพด 1 ช้อนชาลงในอาหารของสุนัข แต่นักโภชนาการมองว่า นี่เป็นเพียงการเพิ่ม แคลอรีให้กับสุนัข ซึ่งโดยปกติแล้ว อาหารที่มีกรดไขมันที่จำเป็นอยู่แล้ว ก็ช่วยให้สุนัขมีสุขภาพผิวหนังที่ดีได้

บางคนอาจจะคิดว่าลูกสุนัขที่กำลังโตนั้นต้องการแคลเซียมมากกว่าปกติเพื่อไปเสริมการสร้างกระดูก แต่ความเป็นจริงนั้นไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องและยังเป็นผลเสียมากกว่าผลดีต่อสุนัขด้วย การให้แคลเซียมต้องมีปริมาณที่สมดุลกับ ฟอสฟอรัส และแมกนีเซียม และการได้รับแคลเซียมมากเกินไปทำให้เกิดปัญหาต่างๆกับสุนัขของคุณได้

สุนัขส่วนใหญ่ เราสามารถให้อาหารเม็ดที่มีคุณภาพดี ก็เป็นการเพียงพอแล้ว และเราสามารถให้อาหารกระป๋องหรืออาหารแช่แข็งในบางโอกาส หรือ ให้เนื้อสดต้ม หรือตับบด ในบางครั้ง และควรหลีกเลี่ยงการให้อาหารเสริมถ้าไม่มีความจำเป็น และควรอยู่ในการแนะนำของสัตวแพทย์

เจ้าของสุนัขบางคนที่ทำอาหารให้สุนัขทานเอง ควรจะปรึกษาผู้เชียวชาญ หรือ มีความรู้ในการให้สารอาหารที่สมดุลแก่สุนัข สุนัขที่ทานอาหารที่เจ้าของทำเองส่วนใหญ่จะ ได้พลังงานสูง ขนร่วงน้อย และผอมกว่าปกติ อาหารทำเองส่วนใหญ่จะเหมือนๆ กับอาหารของคน เช่น เนื้อที่ไม่ติดมัน ไก่เลาะกระดูก ปลา ผักและผลไม้ โยเกิร์ต เป็นต้น

การให้ขนมหรืออาหารเป็นรางวัล เป็นสิ่งที่สุนัขทั้งหลายชอบ โดยเฉพาะดัชชุนด์เขาจะมีความสุขมากเมื่อได้ขนมเป็นรางวัล สำหรับขนม หรืออาหารว่าง เราควรเลือกทีมีแคลอรีต่ำ หรืออารธรรมชาติ เช่น แครอท ผลไม้ หรือเนื้อไก่อบแห้ง เป็นต้น นอกจากจะทำให้เขามีความสุขที่ได้รับรางวัล และยังส่งเสริมให้พวกเขามีสุขภาพดีด้วย

ข้อแนะนำในการให้อาหารสุนัขในวัยต่างๆ

  • ลูกสุนัขอายุ 8-12 สัปดาห์ ต้องการอาหาร 4 มื้อต่อวัน เพื่อการเจริญเติบโตที่ดีที่สุด
    ลูกสุนัขอายุ 3-6 เดือน ต้องการอาหาร 4 มื้อต่อวัน
    ลูกสุนัขอายุ 6 เดือน ถึง 1 ปี ต้องการอาหาร 2 มื้อต่อวัน
    เมื่อสุนัขอายุครบ 1 ปีไปแล้ว สามารถให้อาหารวันละ 1 มื้อได้ หรือจะแบ่งอาหารในปริมาณที่น้อยลงแต่ให้เป็น 2 มื้อได้

    ลูกสุนัขควรได้รับอาหารที่มีคุณภาพดี มีสารอาหารครบถ้วนที่จำเป็นกับการเจริญเติบโต ควรจำกัดการให้อาหารของคนกับลูกสุนัข เพราะจะทำให้ได้สารอาหารที่ไม่เหมาะสม และทำให้เกิดปัญหา ทั้ง กระดูกและฟัน นิสัยการกิน หรือ ปัญหาสุนัขอ้วนได้ น้ำสะอาดก็เป็นสิ่งจำเป็นมากที่เจ้าของสุนัขต้องจัดเตรียมไว้ให้เขาได้ดื่มได้ตลอดเวลาที่ต้องการ และ ภาชนะต่างๆ ที่ใส่อาหารก็ต้องรักษาความสะอาดอยู่เสมอ

    เมื่อสุนัขของคุณเริ่มเข้าสู่วัยชรา ความต้องการสารอาหารจะเปลี่ยนแปลงไปตามวัย เมื่อสุนัขอายุมากขึ้นก็จะลดกิจกรรมต่างๆลง และชอบนอนมากขึ้น เขาจึงต้องการพลังงานที่ไม่มาก ควรให้คาร์โบไฮเดรตน้อยลง และให้โปรตีนมากขึ้นเพื่อให้โปรตีนช่วยซ่อมแซมเสริมสร้างอวัยวะต่างๆ และควรใช้อาหารสุนัขสูตรสำหรับสุนัขชราสำหรับสุนัขในวัยนี้

    เจ้าของจำนวนมากที่ทำอาหารให้สุนัขทาน และ ต้องเป้นอาหารตามธรรมชาติเพราะต้องการให้สุนัขได้รับประโยชน์สูงสุด หนึ่งในอาหารที่ดีสำหรับทั้งลูกสุนัขและสุนัขโต คือ โยเกิร์ต เพราะเป็นแหล่งอาหารชั้นเยี่ยมที่มีแลคโตบาซิลลัส ซึ่งจำเป็นต่อระบบการย่อยอาหาร อีกทั้งยังมีส่วนสำคัญสำหรับลูกสุนัขที่จะได้รับภูมิคุ้มกัน เช่นที่ควรจะได้รับจากแม่อีกด้วย

    ถ้าสุนัขของคุณไม่ยอมทานอาหารที่จัดไว้ให้ ให้คุณค่อยๆ เปลี่ยนไปให้อาหารชนิดอื่น โดยควรปรับเปลี่ยนที่ละน้อย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหากับระบบย่อยอาหารได้

    ถ้าสุนัขของคุณมีปัญหาท้องอืด ปัญหาการย่อย หรือ ระบบลำไส้ หรืออาการแพ้ต่างๆ เช่น คัน หรือ ขนร่วง หรือ ไม่สบาย คุณควรปรึกษาสัตวแพทย์ เพื่อให้แพทย์แนะนำอาหรที่เหมาะสมแก่สุนัขให้

ปัญหาสุนัขอ้วน (Obesity)

ความอ้วนเป็นปัญหาสำคัญทางการแพทย์สำหรับสุนัข สุนัขที่อ้วนจะมีความเสี่ยงสูงในการผ่าตัด และเสี่ยงที่จะได้รับการบาดเจ็บง่าย อีกทั้งยังมีผลเสียต่อ ระบบหัวใจ ปอด ตับ ไต และข้อต่อต่างๆ ทำให้เกิดโรคเกี่ยวกับกระดูก โรคหัวใจ และยังมีปัญหาในการสืบพันธุ์ และสุนัขตัวเมียที่ท้องก็จะทำให้คลอดยากอีกด้วย สุนัขยังมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเบาหวาน มีปัญหาในการควบคุมอุณหภูมิในร่างกาย มีปัญหาการอักเสบของตับอ่อน ถ้าสุนัขที่อ้วนที่ต้องได้รับการผ่าตัด จะทำให้ผ่าตัดยาก ฟื้นตัวจากยาสลบและอาการบาดเจ็บช้า ดังนั้นคุณจึงควรควบคุมการให้อาหารไม่ให้สุนัขอ้วนเกินไป เพื่อเขาจะได้มีสุขภาพที่ดีและอายุยืนยาว3623;3623;

การให้อาหารที่ถูกต้องเพื่อการควบคุมน้ำหนัก
ปรับเปลี่ยนลักษณะนิสัยการกิน - ให้อาหารที่มีแคลอรีต่ำ หรือ อาหารสูตรสำหรับสุนัขชรา และค่อยๆลดปริมาณลงในแต่ละมื้อ และจำกัดการให้ขนมหรือรางวัลให้น้อยลง

ปรับเปลี่ยนการออกกำลังกาย - พาสุนัขออกไปเดินข้างนอกให้บ่อยมากขึ้น และเพิ่มเวลาขึ้นเรื่อยๆ ให้ได้เพิ่มจากเดิมวันละประมาณ 10 นาที และควรออกกำลังกายทุกๆ วัน

การให้อาหารในแต่ละมื้อ ควรจะให้ตรงเวลาเดิมทุกวัน เป็นการดีที่สุดในการควบคุมการกิน และควบคุมน้ำหนักของเขา อีกทั้งคุณยังสามารถสังเกตุความเปลี่ยนแปลงของเขาได้ง่าย เช่น เขาเบื่ออาหารหรือไม่ หรือ มีอาการเจ็บป่วยหรือไม่ การให้อาหารไม่ตรงเวลา หรือ ทิ้งอาหารไว้ให้กินสุนัขกินทั้งวันนั้น ไม่เป็นผลดีกับระบบย่อยอาหารของสุนัข และยังทำให้สุนัขอ้วนอีกด้วย

 

Shop www.Pet-Source.com 

dackel_feeding